Serendix และ SCG 3DP ผนึกกำลัง นำเสนอเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ (3D Printing) ที่ก้าวล้ำในวงการก่อสร้าง ด้วยการสร้างสรรค์อาคาร 'Serendix 55' ซึ่งเป็นอาคารพิมพ์ขึ้นรูปปูนมอร์ตาร์ 3 มิติแห่งแรกในโลก เตรียมพร้อมต้อนรับการมาเยือนของ Osaka Expo 2025

ความร่วมมือครั้งสำคัญนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยี 3D Printing ที่สามารถปฏิวัติวงการก่อสร้างได้อย่างแท้จริง จากเดิมที่ต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก และใช้เวลานานในการก่อสร้าง อาคาร 'Serendix 55' ที่ถูกพิมพ์ขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี 3D Printing สามารถลดระยะเวลาในการก่อสร้างได้อย่างมาก และยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

อาคาร 'Serendix 55' ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น และถูกออกแบบมาให้เป็นพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี 3D Printing โดยอาคารนี้มีความโดดเด่นด้วยรูปทรงที่แปลกตา และการใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยี 3D Printing ในงานก่อสร้าง กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีข้อดีหลายประการ เช่น สามารถสร้างสรรค์รูปทรงที่ซับซ้อนได้ ลดการใช้แรงงานคน และลดของเสียจากการก่อสร้าง นอกจากนี้ เทคโนโลยี 3D Printing ยังสามารถนำมาใช้ในการสร้างบ้านราคาประหยัด และบ้านที่ทนทานต่อภัยพิบัติได้อีกด้วย

SCG 3DP บริษัทในเครือ SCG เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 3D Printing ในประเทศไทย และมีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาวัสดุและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการพิมพ์ 3 มิติ สำหรับงานก่อสร้าง การร่วมมือกับ Serendix ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ SCG ในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพสูง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดีที่สุด

Osaka Expo 2025 เป็นมหกรรมระดับโลกที่จัดขึ้นทุก 5 ปี และจะจัดขึ้นที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นในปี 2025 คาดว่าจะมีผู้เข้าชมจากทั่วโลกจำนวนมาก และอาคาร 'Serendix 55' จะเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมอย่างแน่นอน

อนาคตของงานก่อสร้าง กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการเข้ามาของเทคโนโลยี 3D Printing ที่จะช่วยให้การก่อสร้างมีความรวดเร็ว ประหยัด และยั่งยืนมากขึ้น การร่วมมือกันระหว่าง Serendix และ SCG 3DP ในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันเทคโนโลยี 3D Printing ให้เป็นที่ยอมรับ และนำมาใช้ในวงการก่อสร้างอย่างแพร่หลาย