สถานการณ์ชายแดนตึงเครียด!กรมสุขภาพจิต เตรียมพร้อมดูแลสุขภาพจิตประชาชนในพื้นที่เสี่ยง

สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงตึงเครียด บริเวณพื้นที่ช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความกังวลและวิตกกังวล กรมสุขภาพจิตตระหนักถึงผลกระทบทางจิตใจที่อาจเกิดขึ้น จึงเร่งเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือดูแลสุขภาพจิตของประชาชนอย่างเต็มที่
กรมสุขภาพจิตเปิดเผย ว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการดูแลจิตใจของประชาชนที่ต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง รวมถึงครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว
การดูแลสุขภาพจิตในภาวะวิกฤต จำเป็นต้องมีการประเมินความต้องการของแต่ละบุคคล เพื่อให้การช่วยเหลือสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดเตรียมทีมบุคลากรด้านสุขภาพจิต ทั้งจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และนักสังคมสงเคราะห์ เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง สามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตได้หลายช่องทาง เช่น
- สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้คำปรึกษาและช่วยเหลือเบื้องต้นตลอด 24 ชั่วโมง
- โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ ให้บริการคัดกรองและให้คำปรึกษาเบื้องต้น
- สถานีอนามัย ให้บริการให้คำปรึกษาและสนับสนุนด้านสุขภาพจิต
- หน่วยงานภาครัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพจิตและให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
นอกจากนี้ กรมสุขภาพจิตยังแนะนำ ให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากแหล่งที่เชื่อถือได้ หลีกเลี่ยงการรับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือข่าวลือที่อาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก และดูแลสุขภาพกายให้แข็งแรง เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจ
คำแนะนำสำหรับผู้ที่รู้สึกเครียดหรือวิตกกังวล สามารถลองทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย การพูดคุยกับคนใกล้ชิด หรือการทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อลดความเครียดและปรับสมดุลทางอารมณ์
กรมสุขภาพจิตขอให้ ประชาชนทุกท่านร่วมมือกันในการรับมือกับสถานการณ์ โดยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เพื่อบรรเทาผลกระทบทางจิตใจที่อาจเกิดขึ้น และร่วมกันสร้างสังคมที่เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง