ภัยเงียบคุกคามสตรี! เสี่ยงไทรอยด์สูง 4 เท่า ไม่ควรมองข้าม อาการเริ่มต้นที่ต้องรู้และวิธีดูแลสุขภาพ
ภัยเงียบที่ผู้หญิงต้องระวัง: โรคไทรอยด์ ความเสี่ยงที่สูงกว่าใคร
โรคไทรอยด์เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสตรี มีรายงานว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ชาย ทำให้โรคไทรอยด์กลายเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสำคัญและไม่ควรมองข้าม
ทำไมผู้หญิงถึงเสี่ยงโรคไทรอยด์มากกว่า?
ปัจจัยทางชีววิทยาและฮอร์โมนมีส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงกว่า โดยเฉพาะในช่วงวัยเจริญพันธุ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอดอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ นอกจากนี้ ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในผู้หญิงก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคไทรอยด์ได้เช่นกัน
อาการเริ่มต้นของโรคไทรอยด์ที่ต้องเฝ้าระวัง
อาการของโรคไทรอยด์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับว่าต่อมไทรอยด์ทำงานมากหรือน้อยเกินไป อาการที่ควรสังเกตมีดังนี้:
- ไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป (Hypothyroidism): อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย น้ำหนักขึ้น ผิวแห้ง ผมร่วง ท้องผูก ขี้หนาว ใจสั่น
- ไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism): ใจสั่น มือสั่น น้ำหนักลด เหงื่อออกมากนอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย
หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ถูกต้อง
การตรวจพบโรคไทรอยด์: ตรวจเลือดคือทางออก
การตรวจเลือดเป็นวิธีหลักในการวินิจฉัยโรคไทรอยด์ โดยแพทย์จะตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ (T3, T4) และฮอร์โมนกระตุ้นต่อมไทรอยด์ (TSH) เพื่อประเมินการทำงานของต่อมไทรอยด์ หากผลตรวจมีความผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจอัลตราซาวด์ต่อมไทรอยด์ หรือการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ
การดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันโรคไทรอยด์
แม้ว่าโรคไทรอยด์จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่การดูแลสุขภาพที่ดีสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้:
- ตรวจสุขภาพประจำปี: ตรวจเลือดเพื่อตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์เป็นประจำ
- รับประทานอาหารที่มีไอโอดีน: ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ สามารถพบได้ในอาหารทะเล สาหร่ายทะเล และน้ำนม
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตราย: สารเคมีบางชนิดอาจส่งผลเสียต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์
- จัดการความเครียด: ความเครียดอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์