สื่อกัมพูชาถูกคุกคาม! นักข่าวถูกควบคุมตัวสอบปากคำจำนวนมาก ขณะรายงานข่าวชายแดน
เกิดเหตุการณ์น่ากังวลในกัมพูชา เมื่อสื่อมวลชนหลายรายถูกทางการควบคุมตัวและสอบปากคำ ขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวความขัดแย้งบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทย เหตุการณ์นี้สร้างความหวั่นใจให้กับวงการสื่อ และจุดประกายคำถามถึงเสรีภาพของสื่อในประเทศ
CamboJA สมาคมพันธมิตรนักข่าวกัมพูชา (CamboJA) รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. นักข่าวอย่างน้อย 9 คน ถูกนำตัวไปยังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดอุดรมีชัยเพื่อทำการสอบปากคำ ขณะที่กำลังเดินทางไปยังพื้นที่ชายแดนเพื่อทำข่าวความขัดแย้งดังกล่าว โดยในจำนวนนักข่าวที่ถูกควบคุมตัวนั้น มีนักข่าวชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 1 ราย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ความตึงเครียดบริเวณชายแดนกัมพูชา-ไทยกำลังทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้การรายงานข่าวของสื่อมวลชนเป็นไปอย่างยากลำบากและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น การที่นักข่าวถูกควบคุมตัวสอบปากคำเช่นนี้ ยิ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง
ผลกระทบต่อเสรีภาพสื่อ
การจับกุมนักข่าวเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการรายงานข่าวความขัดแย้งชายแดนเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกัมพูชาในสายตาชาวโลกอีกด้วย องค์กรสื่อมวลชนระหว่างประเทศหลายแห่งได้แสดงความกังวลต่อเหตุการณ์นี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาปล่อยตัวนักข่าวที่ถูกควบคุมตัว และรับประกันเสรีภาพในการทำข่าวของสื่อมวลชน
คำถามที่ต้องตอบ
เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดคำถามสำคัญหลายประการ เช่น รัฐบาลกัมพูชาต้องการควบคุมข่าวสารเกี่ยวกับความขัดแย้งชายแดนหรือไม่? การสอบปากคำนักข่าวมีจุดประสงค์อะไร? และรัฐบาลจะรับประกันได้อย่างไรว่านักข่าวจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเสรีและปลอดภัย?
อนาคตของสื่อในกัมพูชา
อนาคตของสื่อในกัมพูชาขึ้นอยู่กับการเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการรับประกันความปลอดภัยของนักข่าว หากรัฐบาลไม่สามารถสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อเสรีภาพของสื่อได้ วงการสื่อในกัมพูชาอาจต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในอนาคต
เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือนที่สำคัญสำหรับกัมพูชา และประชาคมโลก ควรมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และกดดันให้รัฐบาลกัมพูชาเคารพเสรีภาพสื่อ และปกป้องสิทธิของนักข่าวทุกคน